- กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการ แห่งรัฐ
- กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร มีวิธีการทํางานอย่างไร
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการ แห่งรัฐ
วันที่ 17 เม.ย.67 กรมบัญชีกลางประกาศแจ้งข่าว ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 (โครงการเก่า) ที่มีวงเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ เป็นผู้มีสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการปัจจุบัน) กรมบัญชีกลางจะคืนวงเงิน e-Money คงเหลือให้แก่ผู้มีสิทธิตามแนวทาง ดังนี้
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ก.พ เทคนิค การ เล่น สล็อต ให้ ได้ โบนัส . – 26 มี.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
จึงขอให้ผู้มีสิทธิ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 19 มิ.ย. 67 หรือยื่นหนังสือยินยอมฯ ที่สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลางภายในวันที่ 31 พ.ค. 67 เพื่อรับเงิน e-Money คงเหลือ โดยจะทำการแก้ไขรายการโอนที่ไม่สำเร็จ (Reject) ครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 มิ.ย. 67 หากยังโอนไม่สำเร็จ จะส่งเงินคืนกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการ แห่งรัฐ
หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้) และทำการแก้ไขรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567
สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้) และทำการแก้ไขรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 หากยังมีรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จะส่งเงินคืนกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
ล่าสุด กรมบัญชีกลางได้โอนเงิน e-Money คงเหลือให้ผู้มีสิทธิเมื่อวันที่ 23-24 พ.ค. 67 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งไว้ในหนังสือยินยอม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้ (ผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี)
1.ผู้ที่ยืนยันตัวตนแล้วและยังมีชีวิต โอนเงิน e-Money คืนให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 23 และ 24 พฤษภาคม 2567 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้มีสิทธิแจ้งความประสงค์ในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้) และทำการแก้ไขรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 หากยังมีรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จะส่งเงินคืนกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่ระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม หัวข้อตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร มีวิธีการทํางานอย่างไร
เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้ (cookies) เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการเว็บไซต์
ในมุมมองของผู้บริโภคแล้ว หากพวกเขาสามารถที่จะเปรียบเทียบโปรดักต์กับราคา ตลอดจนถึงสินค้าและบริการได้หลากหลายขึ้น รวมถึงทำการเลือกซื้อสินค้าได้ตามความสะดวกของตนเอง นั่นก็คงเป็นเรื่องที่ดีมาก ซึ่งในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจ e-commerce ก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบัน E-Wallet หรือระบบ epayment ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความปลอดภัยสูง ส่งผลให้มีผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นระบบที่ผู้ใช้สามารถควบคุมบัญชีของตัวเองได้อย่างอิสระ สามารถเติมเงินเข้าตามจำนวนที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องผูกกับบัตรใด ๆ รวมถึงมีระบบตรวจสอบบัญชีและยอดเงินเข้า-ออกที่รวดเร็ว หากพบปัญหา ก็สามารถแจ้งผู้ให้บริการได้ทันที
บ่อยครั้งที่ e-wallet มักนำเสนอบริการและการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินค่าสมัครสมาชิกออนไลน์, การซื้อในแอปฯ, ตลอดจนสินค้าและบริการดิจิทัลอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ผ่านทาง e-wallet โดยไม่ต้องไปหาช่องทางอื่นให้ยุ่งยาก
จากเดิมที่ใครสักคนอยากเปิดบัญชีธนาคารเพื่อไว้ใช้โอนเงินหรือชำระค่าสิ่งของ พวกเขาจะต้องไปเปิดบัญชีที่สาขาธนาคารเพื่อทำเรื่องต่างๆ แต่ขั้นตอนเหล่านั้นจะลดน้อยลงมาก เพราะไม่ว่าใครก็สมัครใช้งาน e-wallet ได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร จากนั้นจะเก็บเงิน, ชำระเงิน, และเข้าถึงบริการทางการเงินอื่นๆ ก็ทำได้ง่ายและเข้าถึงโอกาสทางการเงินต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งบริการ Alipay และ Alipay+ จาก KTC นั้น ร้านค้าเชื่อมต่อระบบเพียงครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียได้มากถึง 1 พันล้านคน* อีกทั้งยังสะดวก รวดเร็วกว่าการเชื่อมต่อกับโมบายล์วอลเล็ตของแต่ละประเทศแบบหนึ่งต่อหนึ่ง